ตามนโยบายประธานศาลฎีกา พ.ศ. 2567 – 2568 นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล “ยึดมั่นในหน้าที่ ตามวิถีตุลาการ” 1 สานต่อ : การอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชน และความมั่นคงของสังคม ศาลแขวงพระนครเหนือได้ดำเนินงานการพัฒนาระบบการปล่อยชั่วคราว โดยการดำเนินงานตามแนวทางปฏิบัติของศาลแขวงพระนครเหนือเกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราวและวิธีเรียกประกันในคดีอาญา พ.ศ. 2567 และบัญชีมาตรฐานกลางวงเงินประกันการปล่อยชั่วคราว ที่ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมา ได้กำหนดให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนพึงได้รับการปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีประกันและหลักประกันเป็นลำดับแรก โดยให้ผู้ต้องหาหรือจำเลยสาบานตนหรือปฏิญาณตนว่าจะมาตามนัดหรือหมายเรียก เว้นแต่ศาลเห็นว่าการสาบานตนหรือปฏิญาณตนยังไม่เพียงพอ ก็ให้ใช้การกำกับดูแลและเรียกประกันตามสมควรตามลำดับความเข้มงวด ได้แก่ กำหนดเงื่อนไขให้ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวปฏิบัติ แต่งตั้งผู้กำกับดูแล ทำสัญญาประกัน ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์ที่สามารถตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทาง เรียกหลักประกัน เป็นต้น โดยศาลพึงกำหนดให้เหมาะสมและได้สัดส่วนกับพฤติการณ์ของผู้ต้องหาหรือจำเลยเป็นรายๆ ไป และศาลอาจเรียกหลักประกันได้ โดยระบุเหตุผลความจำเป็นที่ต้องเรียกหลักประกันไว้โดยชัดแจ้ง และให้คำนึงถึงความสามารถหรือข้อจำกัดในการหาหลักประกันของผู้ต้องหาหรือจำเลยประกอบด้วย

ภายหลังการปรับแนวทางปฏิบัติดังกล่าวข้างต้นเป็นเวลา 5 เดือนเศษ จนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 พบว่า

- การปล่อยชั่วคราวโดยมีประกัน/หลักประกันลดลงจากเดิม คิดเป็นร้อยละ 44.55

- เงินประกันที่นำมาวางศาลลดลง คิดเป็นร้อยละ 37.45

- ผู้ต้องหาหรือจำเลยมีการหลบหนีการปล่อยชั่วคราวลดลง คิดเป็นร้อยละ 58.44

- ผู้ต้องหา จำเลย ผู้ขอประกัน มีความพึงพอใจ มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 56 และมาก คิดเป็นร้อยละ 44

นอกจากนี้ ศาลแขวงพระนครเหนือยังได้จัดห้องรอฟังคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ความรู้เกี่ยวกับการปล่อยชั่วคราวผ่านช่องทางเว็บไซต์ศาลแขวงพระนครเหนือ และเฟซบุ๊กเพจ ประชาสัมพันธ์ศาลแขวงพระนครเหนือ ตลอดจนลงพื้นที่ให้ความรู้และประชาสัมพันธ์การปล่อยชั่วคราวตามหน่วยงานภายนอกต่าง ๆ ซึ่งนับว่าเป็นการอำนวยความสะดวกและสร้างความพึงพอใจให้แก่ผู้ต้องหา จำเลย ผู้ขอประกัน คู่ความและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดีได้เป็นอย่างดี